ชุดเก็บเสมหะเพื่อส่งตรวจ (Mucus Extractors)
- ขวดทำจาก Polypropylene - PP วัสดุ medical grade ลักษณะใส รูปทรงกระบอกที่แสงสามารถส่องผ่านได้ ทำให้มองเห็นสารคัดหลังภายในได้ ทนทาน ไม่แตกง่าย
- ตัวกระปุกมีขีดบอกปริมาตรที่ข้างขวดที่ง่ายต่อการสังเกตตั้งแต่ 5 – 25 มิลลิลิตร ซึ่งมีระยะห่างขีดละ 1 มิลลิลิตร
- สาย suction ทำจากPolyvinylchloride – PVC วัสดุ Medical Grade มีความใส และคืนรูปได้ดี ไม่หัก พับ งอ ด้านปลายสายมีความมน ไม่คม
- มีรูที่ปลายสายsuction 1 รู และด้านข้างอีก 2 รู ที่จะไม่ตรงกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดยิ่งขึ้น และป้องการอุดตันของสาย
- มีสายสำหรับต่อเข้ากับเครื่อง suction พร้อมปุ่มควบคุมการดูดด้วยนิ้ว (Finger trip control)ที่จะทำงานโดยการกดเพื่อดูด และปล่อยเพื่อหยุดการดูดเสมหะ
- สาย suction และสายต่อระบบสุญญากาศทั้ง 2 เส้น มีความยาว 50 และ 40 เซนติเมตรตามลำดับ
- สาย suction มีขนาดหลากหลายตั้งแต่ 6 ถึง 14 Fr.
MUCUS Extractors คืออะไร เก็บเสมหะยังไงในช่วงโควิด 19
MUCUS Extractors ใช้กับเครื่องดูดเสมหะ หรือระบบแรงดันสุญญากาศของโรงพยาบาล เพื่อรักษาทางเดินหายใจโดยการกำจัดสารคัดหลั่งออกจากปาก คอ และบริเวณทางเดินหายใจ รวมไปถึงยังทำหน้าที่สำคัญในการเก็บเสมหะเพื่อทำการส่งทดสอบ หรือตรวจหาการปนเปื้อนของสาร สิ่งสกปรก เชื้อโรค ไวรัส ต่างๆ ได้อีกด้วย
ในการวินิจฉัยที่แม่นยำมากขึ้นของแพทย์ผู้ทำการรักษา ในบางกรณีพยาธิสภาพของผู้ป่วยอาจจะต้องใช้การตรวจเสมหะ หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ ว่ามีส่วนประกอบ หรือการปนเปื้อนของเชื้อโรค ไวรัส สิ่งอื่นๆ หรือไม่ เพื่อให้แพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยได้รวดเร็ว และถูกต้องยิ่งขึ้น
ดังนั้นการเก็บเสมหะ จึงจำเป็นต้องใช้ชุดเก็บเสมะในการบรรจุเสมหะไปส่งตรวจในห้องเพาะเชื้อหรือห้องทดลองต่อไป โดยชุดเก็บเสมหะนั้นจะประกอบไปด้วย
- สายดูดเสมหะ ที่จะทำหน้าที่ในการนำเสมหะขึ้นมาจากหลอดลมผู้ป่วย
- สายท่อสุญญากาศพร้อมปุ่มควบคุมการดูดด้วยนิ้ว (Finger tip) เป็นสายที่นำแรงดันสุญญากาศจากเครื่องดูดเสมหะ หรือระบบแรงดันสุญญากาศของโรงพยาบาล เพื่อใช้เป็นแรงดูดเสมหะ
- ฝาปิดที่ต่อสายดูดเสมหะและสายท่อสุญญากาศพร้อมปุ่มควบคุมการดูดด้วยนิ้ว (Finger tip) ทำหน้าที่ในการลดการฟุ่งกระจายของเสมหะ ในขณะที่ดูดเสมหะ
- ขวดบรรจุเสมหะ ที่จะมีการขีดบอกระดับปริมาตรที่ข้างขวด เพื่อให้มีปริมาณของเสมหะที่เพียงพอในการทดสอบเชื้อ ซึ่งโดยปรกตินั้นจะต้องใส่เสมหะประมาณ 10 – 15 มิลลิลิตร ในการทดสอบ (ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีในการทดสอบนั้นๆ)
- ฝาปิดขวดบรรจุเสมหะเพื่อส่งตรวจ ซึ่งจะอยู่บริเวณก้นของขวดบรรจุเสมหะ เมื่อทำการดูดเสมหะให้ได้ปริมาตรที่เพียงพอแล้ว จะทำการปลดฝาปิดที่ต่อกับสายดูดเสมหะออก เนื่องจากการส่งตรวจทั้งที่มีสายดูดเสมหะเลยนั้นอาจจะก่อให้เกิดการปนเปื้อนได้ จึงต้องปลดออก และนำฝาที่บริเวณก้นขวดมาปิดขวดแทนก่อนทำการส่งตรวจต่อไปนั้นเอง
ในการดูดเสมหะทั่วๆไปนั้น จะเกิดการฟุ่งกระจายของละอองของน้ำลาย เมือก สารคัดหลั่ง รวมไปถึงเสมหะที่อยู่บริเวณทางเดินหายใจขึ้น ทำให้เกิดการสุ่มเสี่ยงที่อาจจะทำให้ก่อเกิดเป็นแหล่งการสะสม หรือปนเปื้อนจากละอองเหล่านั้นได้ ยิ่งในยุคของโควิด 19 แล้วนั้นการเกิดละอองเป็นเรื่องที่เราหำวาดกลัวยิ่งขึ้น แล้วการดูดเสมหะในยุคโควิด 19 นั้นจะต้องใช้อุปกรณ์ที่ป้องกันการแพร่กระจายของละอองโดยเราจะให้สายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter ที่จะลดการฟุ่งกระจายของละออง ขณะที่ดูดเสมหะนั้นเอง
ส่วนการเก็บเสมหะนั้นสามารถทำด้วยการต่อร่วมกับสายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter แต่จะต้องมีข้อต่อพิเศษ หรือเป็นรุ่นที่ MUCUS Extractorsจะ เปลี่ยนจากสายดูดเสมหะ เป็นสายพลาสติกพร้อมข้อต่อที่จะทำหน้าที่เชื่อมกับสายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter ได้แทนนั้นเอง ซึ่งการเดินทางของเสมหะจากทางเดินหายใจ ผ่ายสายดูดเสมะระบบปิด ไปยังสายพลาสติกของ MUCUS Extractorsและบรรจุลงในขวดเก็บเสมหะ เมื่อได้ปริมาณที่เพียงพอแล้วปลดสายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter ออกจากMUCUS Extractors ต่อมาปลดฝาปิดพร้อมสายต่างๆ ออก และ ทิ้งลงขยะติดเชื้อ จากนั้นนำฝาปิดบริเวณก้นขวดมาใส่แทน และทำการส่งตัวอย่างเสมหะตรวจสอบ หรือทดลองต่อไป เท่านี้ก็ลดการเกิดละออง หรือการปนเปื้อนได้อีกขั้นหนึ่งแล้ว