shopup.com

ดูบทความความดันโลหิตคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

ความดันโลหิตคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

ความดันโลหิตคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

 

ความดันโลหิต หรือ Blood Pressure คือความดันเลือดภายในหลอดเลือดแดง นั่นหมายถึง แรงดันเลือดที่ไปกระทบผนังภายในหลอดเลือดแดงขณะส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งค่าความดันนี้สามารถวัดได้โดยเครื่องมือทางการแพทย์ (Blood Pressure Monitor) ที่นอกจากจะบอกถึงความแรงของการสูบฉีดเลือดแล้ว ยังอนุมานได้ถึงสุขภาพของผนังหลอดเลือดว่ายังดีอยู่หรือไม่ เพราะหากผนังหลอดเลือดมีความผิดปกติ แข็ง ขาดความยืดหยุน มีตะกรันเกาะ หรือเริ่มตีบ ก็จะถูกฟ้องด้วยค่าความดันโลหิตที่สูงขึ้นนั่นเอง

เพราะความดันโลหิตสูงจะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด รวมทั้งโรคไต และโรคแทรกซ้อนต่างๆ

และหากมีการตีบ แตก หรือตันของหลอดเลือดสมองอย่างเฉียบพลัน อาจจะทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น ความดันโลหิตจึงมีความสำคัญ ที่ต้องใส่ใจดูแล และควรได้รับการตรวจอย่างละเอียด โดยเฉพาะกับผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง

 

ค่าความดันโลหิตที่เหมาะสม ควรอยู่ที่เท่าไหร่

  • ค่าความดันโลหิตตัวบน คือค่าความดันขณะที่หัวใจบีบตัว (Systolic Pressure) ส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ซึ่งค่ามาตรฐานจะอยู่ที่ 120 มม.ปรอท
  • ค่าความดันโลหิตตัวล่าง คือค่าความดันขณะที่หัวใจคลายตัว (Diastolic Pressure) ซึ่งค่ามาตรฐานจะอยู่ที่ 80 มม.ปรอท

 

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความดันโลหิต

  • ปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ หากพ่อหรือแม่เป็นความดันโลหิตสูง มักมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงได้มากกว่า
  • ปัจจัยทางพฤติกรรมและสภาพร่างกาย เช่น พฤติกรรมการกินอาหาร ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ความเครียด พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย มีน้ำหนักตัวเกิน มีโรคประจำตัว อายุ เป็นต้น

 

ข้อแนะนำก่อนวัดความดันโลหิต

  • ก่อนวัดความดันโลหิต 30 นาที ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์  ไม่ผ่านการออกกำลังกาย และไม่มีภาวะทางอารมณ์ เช่น โมโห โกรธ หรือ เครียด
  • นั่งพักก่อนทำการตรวจวัดความดันเป็นเวลา 5-15 นาที
  • ควรปัสสาวะก่อนทำการวัดความดัน
  • ไม่ควรพูดคุยมากเกินไปในขณะที่ทำการวัดความดัน

 

ความดันโลหิตต่ำ

เป็นภาวะที่ความดันเลือด systolic ต่ำกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท พบได้ทั้งหญิงชาย ไม่ว่าอายุเท่าใดก็สามารถเป็นได้ ส่วนมากเกิดจากการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน วิตามินซี หรือ เลือดผิดปกติ เช่นภาวะโลหิตจาง โดยภาวะเหล่านี้จะมีทั้งที่สามารถหายเองได้ หรือพบแพทย์เพื่อรักษา


อาการของความดันโลหิตต่ำ

ปกติแล้วความดันโลหิตต่ำจะไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ แต่หากอยู่ในภาวะที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ผู้ป่วยจะมีอาการเกิดขึ้นชั่วคราว ดังนี้

  • เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมกะทันหัน
  • ใจเต้นแรง ใจสั่น
  • ตาพร่าเบลอ
  • คลื่นไส้
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
  • กระหายน้ำ

 

ข้อควรทำเมื่อความดันโลหิตต่ำ

  • หากมีอาการควรนั่งพัก หรือนอนลงทันทีโดยพยายามยกเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง
  • หลีกเลี่ยงการยืน หรือนั่งนาน ๆ
  • หลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในเวลากลางคืน และลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจให้เพิ่มมากขึ้น
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการนอนดึก

 

ความดันโลหิตสูง

หากวัดความดันโลหิตแล้วได้ค่าตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป มีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูง ซึ่งต้องคัดกรองทันทีอีก 1-2 ครั้ง เพื่อยืนยัน ปัจจัยที่ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง ได้แก่ อารมณ์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือมีคาเฟอีน เป็นต้น อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงคือ 

  • อาการเวียนศีรษะ 
  • ตึงต้นคอ
  • ใจสั่น
  • อ่อนเพลีย
  • ตาพร่ามัว
  • อาจมีเลือดกำเดาไหลร่วมด้วย

 

สาเหตุของการเกิดความดันโลหิตสูง

ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงตรวจไม่พบสาเหตุ อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยบางรายอาจมีโรคบางอย่างซ่อนอยู่ เช่น โรคไต เนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมองและต่อมหมวกไต  หรือเกิดจากพฤติกรรมหรือสาเหตุเสี่ยง ได้แก่ 

  • การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ
  • ไม่ออกกำลังกาย 
  • มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ 


เป็นความดันโลหิตสูงแล้วต้องทำอย่างไร

  • บริโภคอาหารที่มีประโยชน์และมีผลดีต่อความดันโลหิต ได้แก่ การทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และลดเนื้อสัตว์ น้ำตาล ของหวาน และอาหารที่มีรสเค็ม
  • งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • ดูแลตัวเองไม่ให้เครียดมากจนเกินไป

ดังนั้น ไม่ว่าจะมีภาวะความดันสูง หรือความดันต่ำ หากมีอาการต่อเนื่องเป็นประจำ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัย และทำการรักษา


อ้างอิง : www.princsuvarnabhumi.com / www.phyathai.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Customer services : 096-924-6604
Facebook : @AdlerMedicalSupply
Line@ : https://page.line.me/adlermed
Website : https://www.adlerthailand.com

30 มกราคม 2567

ผู้ชม 71 ครั้ง

Engine by shopup.com