ดูบทความ
ดูบทความรีวิวเครื่องผลิตออกซิเจนแบรนด์ Kroeber ผลิตและนำเข้าจากเยอรมัน
รีวิวเครื่องผลิตออกซิเจนแบรนด์ Kroeber ผลิตและนำเข้าจากเยอรมัน
รีวิวเครื่องผลิตออกซิเจนแบรนด์ Kroeber ผลิตและนำเข้าจากเยอรมัน
ข้อดีและความคุ้มค่าของเครื่องผลิตออกซิเจนแบรนด์ Kroeber
สำหรับผู้ประกอบการด้านสถานพยาบาล หรือผู้ใช้งานทางบ้านที่กำลังมองหาเครื่องผลิตออกซิเจนประสิทธิภาพสูงใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัยอยู่ รวมถึงเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย คาดว่าหนึ่งในแบรนด์ที่คุณนึกถึงจะต้องมี Kroeber อยู่ในนั้นอย่าง แน่นอน แม้ว่าจะมาพร้อมราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบการใช้งานที่ยาวนานและอายุการเปลี่ยนอะไหล่ใช้ได้นานกว่าแบรนด์อื่น ๆ แล้วล่ะก็ รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน สำหรับใครก็ตามที่ยังลังเลอยู่ว่าควรจะใช้แบรนด์นี้ดีหรือไม่ ลองมาดูเหตุผลที่จะทำให้คุณปฏิเสธความคุ้มค่าไม่ได้กัน
ความเป็นมาและจุดเริ่มต้นของแบรนด์ นำมาซึ่งมาตรฐานใหม่แห่งเครื่องผลิตออกซิเจน
แบรนด์นี้ถูกผลิตและนำเข้าจากประเทศเยอรมัน ภายใต้ชื่อเต็มว่า Kröber Medizintechnik GmbH ก่อตั้งเมื่อปี 1981 โดยก่อนที่จะถูกนำเข้ามาใช้งานในประเทศไทย ยังไม่มีใครเชื่อเลยว่ามีเครื่องผลิตออกซิเจนที่ไม่มีเสียงรบกวนในระหว่างการใช้งาน โดยได้รับรู้เรื่องราวมาจากนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่มาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย ที่ต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจนเป็นประจำ แต่วันหนึ่งไส้กรองออกซิเจนต้องได้รับการเปลี่ยน จึงได้ทำการติดต่อกับทางบริษัทของเรา ซึ่งชาวต่างชาติท่านนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าต้องเป็นไส้กรองยี่ห้อนี้เท่านั้นเพราะไม่มีเสียงรบกวน และใช้ดีที่สุด กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทางเราเป็นฝ่ายเริ่มต้นติดต่อบริษัทผู้ผลิตจากเยอรมัน จนได้ทำสัญญาเป็นผู้นำเข้าเครื่องผลิตออกซิเจน Kroeber เป็นเจ้าแรกในไทยเพราะคำบอกเล่าของชาวเยอรมันรายนั้นนั่นเอง
เปรียบเทียบเครื่องผลิตออกซิเจนแบรนด์ Kroeber 3 รุ่นยอดนิยม
ในเมื่อทราบกันถึงที่มาของแบรนด์นี้แล้ว ลองมาดูกันว่าเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นยอดนิยมมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นมีข้อแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นความรู้ให้ผู้ที่สนใจและสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจที่จะซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน Kroeber ได้ง่ายขึ้น
- Kroeber รุ่น Aeroplus E เป็นเครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 5 ลิตรเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่ผลิตภายใต้แบรนด์เดียวกันแล้ว ถือว่าเป็นเครื่องผลิตออกซิเจนราคาไม่สูงมากนัก แถมมีน้ำหนักค่อนข้างเบาอยู่ที่ประมาณ 17.5 กิโลกรัม มีความเข้มข้นออกซิเจนอยู่ระหว่าง 87% - 95% ใช้กำลังไฟต่ำเพียงแค่ 295 วัตต์และมีระดับเสียงการทำงานของตัวเครื่องเพียง 40 dB เท่านั้น มาพร้อมกับอุปกรณ์จำเป็น 6 อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สายแคนนูล่า สายออกซิเจน 2 ขนาด ไส้กรอง 2 ตัว ระบบ Firesafe และเซนเซอร์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร มาพร้อมกระปุกน้ำให้ความชื้นและฐานรองที่แยกออกจากตัวเครื่อง มีล้อเลื่อนใช้แบบเคลื่อนที่ได้ง่าย มีฟังก์ชันในการปรับการไหลของออกซิเจน 5 ระดับด้วยกัน พร้อมการรับประกัน 3 ปี
- Kroeber รุ่น O2 ราคาไม่ต่างกันกับรุ่น Aeroplus E มาก แต่เป็นเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีขนาดความจุกว่า 6 ลิตร ถือว่าเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ทั้งที่นำไปใช้ส่วนตัวและใช้ในสถานพยาบาล สามารถปรับอัตราการไหลของออกซิเจนได้มากถึง 3 ระดับ และมีอายุการใช้งานถึง 30,000 ชั่วโมง ต้องบอกเลยว่าการปรับใช้งานระบบบนหน้าจอของเครื่องนี้ถือว่าทำได้ดีและแม่นยำกว่ารุ่นก่อนหน้ามาก กินกำลังไฟมากกว่าเล็กน้อยอยู่ที่ 350 วัตต์ มาพร้อมระบบฟิวส์สามตัว เพิ่มความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งาน และเสียงเบากว่ารุ่น Aeropius E เพราะมีระดับความดังของเครื่องเพียงแค่ 35 dB เท่านั้น โดยความดังของรุ่น Aeroplus E อยู่ที่ 40 เดซิเบล มาพร้อมอุปกรณ์จำเป็นเช่นกัน รุ่นนี้นับว่าเสถียรและมีความสะดวกต่อการใช้งานมากกว่าเมื่อเทียบกับรุ่น Aeroplus E
- Kroeber รุ่น 4.0 ถือได้ว่าเป็นเครื่องผลิตออกซิเจนตัวล่าสุดจากทางแบรนด์ Kroeber มาพร้อมกับเครื่องขนาด 5 ลิตร และการปรับอัตราการไหลของออกซิเจนได้ 3 ระดับเช่นกัน หากเทียบกับตัวรุ่น O2 ถือว่ารุ่น 4.0 นี้กินไฟน้อยมากอยู่ที่ 280 วัตต์ และมีพัฒนาการทางด้านความเงียบที่เบามาก วัดได้เพียง 31 dB เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเครื่องผลิตออกซิเจนพ่นยาได้ที่เสียงเบาที่สุดในตอนนี้ และมีขนาดที่เล็กกว่ารุ่น Aeroplus E มาก มีระบบป้องกันความปลอดภัยมาตรฐานเดียวกันกับรุ่น O2 และอุปกรณ์จำเป็น 8 อย่างด้วยกัน เนื่องจากเป็นรุ่นใหม่ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่จึงมีความเสถียรในการใช้งานและตอบรับการปรับฟังก์ชันต่าง ๆ ได้เร็วกว่าเดิมมาก แม้ราคาจะสูงกว่าทุกรุ่นที่กล่าวถึงมาแต่คุณภาพการใช้งานของเครื่อง 4.0 ก็เป็นที่น่าพึงพอใจกับผู้ใช้งานมาก
ความโดดเด่นที่ทำให้แบรนด์ Kroeber แตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างเห็นได้ชัด
ราคาที่คุณจ่ายมาพร้อมความคุณภาพที่คุ้มค่าที่คุณจะได้รับจากแบรนด์นี้นั่นก็คือ
- ระบบความปลอดภัยในการใช้งานที่มีมากกว่าแบรนด์อื่น อาจจะดูมากเกินความต้องการแต่เมื่อมีไว้ก็ช่วยให้อุ่นใจกว่า ระบบป้องกันความร้อน Firesafe ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง 1 ชุด
- ฟิวส์ที่มีมากถึงสามหัว รวมถึงการออกแบบที่คิดมาเป็นอย่างดีทำให้การใช้งานต่อเนื่องไม่กินไฟมาก
- ความเสถียรในการปรับระดับออกซิเจนและความเข้มข้น รวมถึงฟังก์ชันต่าง ๆ แม้รุ่นก่อนหน้าจะช้ากว่าแต่ก็ถือว่าทำงานได้เร็วกว่ายี่ห้ออื่นอย่างเห็นได้ชัด
- มีเสียงที่เบาในการทำงาน ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- บริการหลังการขายที่ครอบคลุม สามารถปรึกษาแอดมินผ่านทาง Official Line ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีเครื่องสำรองให้ใช้งานในระหว่างการซ่อมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายหากอยู่ในระยะการรับประกัน
นอกจากนี้ยังมีตัวอะไหล่ของเครื่องที่มีคุณภาพดีเยี่ยมไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยๆ จากข้อดีต่าง ๆ เหล่านี้คงจะพอทำให้ทุกคนเห็นได้ชัดแล้วว่ามาตรฐานการใช้งานที่มีคุณภาพและมาตรฐานการรับรองที่ดีเป็นอย่างไร โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยควรให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง การตัดสินใจซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นนี้ ถึงแม้จะมีราคาที่สูงแต่จะสามารถใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนได้อย่างคุ้มค่า ครอบคลุม และปลอดภัยไร้ความกังวลแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Customer services : 096-924-6604
Facebook : @AdlerMedicalSupply
Line@ : https://page.line.me/adlermed
Website : https://www.adlerthailand.com
09 กุมภาพันธ์ 2566
ผู้ชม 431 ครั้ง