shopup.com

ดูบทความทำไมเครื่องผลิตออกซิเจนต้องเติมน้ำ?

ทำไมเครื่องผลิตออกซิเจนต้องเติมน้ำ?

ทำไมเครื่องผลิตออกซิเจนต้องเติมน้ำ?

การเติมน้ำในกระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) ของ เครื่องผลิตออกซิเจน

 

 

เคยสงสัยกันหรือไม่? ว่าทำไม… เครื่องผลิตออกซิเจน ต้องเติมน้ำ แถมพนักงานยังกำชับชัดเจนว่าการใช้งานทุกครั้ง จะต้องมีน้ำในกระปุกที่เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ของเครื่องช่วยหายใจเสมอ ฉะนั้นในบทความนี้ Adler Thailand จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับน้ำในกระบอกว่ามีไว้ทำอะไร และน้ำในนั้นคือน้ำอะไร หมดแล้วใช้น้ำประปาได้หรือไม่ ในบทความนี้เรามีคำตอบ

โดยปกติแล้วเวลาที่คุณซื้อ เครื่องผลิตออกซิเจน มาใช้งานกับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นต้องใช้งานเครื่องช่วยหายใจภายในบ้าน จะมีกระบอกสำหรับใส่น้ำ เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของเครื่องเสมอ ซึ่งบางคนอาจจะมีความสงสัยว่าทำไมต้องมีน้ำอยู่ในกระบอกที่ติดกับเครื่องตลอดเวลา นั่นก็เพราะน้ำจะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับจมูกผู้ป่วยระหว่างการเพิ่มออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก นั่นเอง

ซึ่งกระบอกที่ต้องมีน้ำทุกครั้งก่อนใช้งาน เครื่องผลิตออกซิเจน นั้น เรียกว่ากระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในการใช้งานของเครื่อง เมื่อเติมน้ำในกระปุกในระดับปานกลางเรียบร้อย ออกซิเจนบริสุทธิ์ที่ผลิตออกมาจาก ตัวถังผ่านท่อโดยอาศัยแรงดันอัดอากาศปกติผ่านตัวกรองออกซิเจน (Molecular Sieve) เพื่อกักโมเลกุลของออกซิเจนไว้ ให้ไนโตรเจนไหลผ่านไปได้ ทำให้ได้ออกซิเจนที่เข้มข้นขึ้นถึงประมาณ 90% ที่ออกมาจากเครื่องผ่านน้ำในกระบอก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชื้นให้กับออกซิเจน ก่อนจะถูกส่งไปยังผู้ใช้งาน

การเติมน้ำในกระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) ของ เครื่องผลิตออกซิเจน ให้เติมในระดับปานกลาง คืออยู่ในตำแหน่งตรงกลางระหว่างเส้นบอกระดับ Maximum และเส้น Minimum หรือบางรุ่นอาจจะใช้คำว่า Upper Level และ Lower Level เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำนั้นไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป จากนั้นต่อสายออกซิเจนกับกระบอกทำความชื้น จากนั้นให้สายออกซิเจนอยู่เหนืออ้อมหูของผู้ป่วย และทำการสอดท่อเข้าไปในจมูกของผู้ป่วย เพื่อใช้งาน

 

หากไม่มีน้ำในกระปุกที่ติดมากับ เครื่องผลิตออกซิเจน จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง?

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า หน้าที่หลักของน้ำในกระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) ก็คือทำหน้าที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับจมูกผู้ป่วยระหว่างการเพิ่มออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย เพราะถ้าให้ออกซิเจนผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีนำ้ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นที่จมูกระหว่างหายใจ อาจทำให้ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ใช้งานจมูกแห้งจนทำให้เกิดแผลหรือเยื่อโพรงจมูกอักเสบได้ หรือเลือดกำเดาไหลได้

 

กระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) ที่ใช้กับ เครื่องผลิตออกซิเจน มีกี่ประเภทอะไรบ้าง?

  1. กระบอกทำความชื้นแบบธรรมดา : สำหรับคนไข้ที่ให้ออกซิเจนทางจมูกและหน้ากากครอบบริเวณจมูกกับปาก
  2. กระบอกทำความชื้นแบบปรับเปอร์เซ็นความชื้นได้ : สำหรับคนไข้ที่เจาะคอ ซึ่งคนไข้ประเภทนี้อาจจะต้องใช้ เครื่องผลิตออกซิเจน พ่นยาร่วมด้วย จึงมีความจำเป็นที่ต้องได้รับความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากการพ่นยาจะต้องใช้แรงดันที่สูงมากขึ้นทำให้ผู้ป่วยจมูกแห้งคอแห้งมากขึ้นด้วย ถ้าหากไม่ได้รับความชื้นที่เพียงพออย่างเหมาะสม ยิ่งการเจาะคอนั้นจะทำให้คอขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย หากความชุ่มชื้นไม่เพียงพออาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการระคายเคืองคอหรือหลอดลม จนทำให้เกิดอาการไอมีเสมหะเหนียวข้นมากและอาจไปปิดช่องทางเข้าของออกซิเจน และผู้ป่วยก็จะหอบเหนื่อยได้นั่นเอง ฉะนั้นหากคุณจะต้องซื้อ เครื่องผลิตออกซิเจน สำหรับผู้ป่วยเจาะคอไว้ใช้ที่บ้าน เพื่อความมั่นใจว่าเปอร์เซอร์ของแรงดันกับเปอร์เซ็นของความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการให้ออกซิเจนและพ่นยานั้น ควรเลือกใช้ชนิดกระบอกน้ำให้ความชื้นอย่างเหมาะสมกับชนิดเครื่องผลิตออกซิเจน อุกรณ์การใช้งานและอาการของผู้ป่วยจะสามารถลดปัญหานี้ไปได้

 

เครื่องผลิตออกซิเจนใช้น้ำอะไร?

ในการเลือกใช้น้ำสำหรับเติมกระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) นั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือความสะอาดบริสุทธิ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ใช้งาน หากน้ำที่ใช้มีสิ่งสกปรกหรือถูกปนเปื้อนด้วยเชื้อโรคต่างๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วน้ำที่นิยมใช้หรือที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้กับ เครื่องผลิตออกซิเจน ก็คือน้ำกลั่นสเตอร์ไรด์ (Sterile Water) เพราะเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วอย่างปลอดภัย ไม่มีสารหรือสิ่งสกปรกใดๆ ปนเปื้อนในน้ำชนิดนี้ และจะไม่เกิดปัญหาคราบตะกรันเกาะที่กระบอกน้ำอีกด้วย นอกจากนั้นน้ำกลั่นสเตอร์ไรด์ยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้อย่างสะดวก และรับออกซิเจนได้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้น้ำกลั่นสเตอร์ไรด์ล้างแผล ล้างเครื่องมือแพทย์ และล้างคอนแทคเลนส์ได้อีกด้วย แต่ถ้าไม่มีน้ำน้ำกลั่นสเตอร์ไรด์ สามารถใช้น้ำสะอาดหรือน้ำกรองที่ผ่านการต้มสุกพักให้เย็นที่อุณหภูมิห้องแล้วทดแทนกับ เครื่องผลิตออกซิเจน ได้ ไม่แนะนำให้ใช้น้ำประปาจะมีส่วนผสมของคลอรีน ซึ่งเมื่อสารนี้ตกค้างในร่างกายอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ อีกทั้งน้ำประปาที่ผ่านก๊อกน้ำบ้านที่ใช้งานมานานแล้ว ก็อาจจะมีโอกาสปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรือตะกอนที่ค้างในท่อหรือก๊อกได้ นั่นเอง

 

การเติมน้ำใน เครื่องผลิตออกซิเจน ให้ถูกวิธีต้องทำอย่างไรบ้าง?

  • ใช้น้ำกลั่นสเตอร์ไรด์ (Sterile Water) ในกระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) ให้อยู่ในตำแหน่งตรงกลางระหว่างเส้นบอกระดับ Maximum และเส้น Minimum หรือบางรุ่นอาจจะใช้คำว่า Upper Level และ Lower Level ไม่ควรเติมมากเกินไป เพราะน้ำอาจจะกระเด็นเข้าเครื่องผลิตออกซิเจนได้
  • การเปลี่ยนน้ำกลั่นในกระบอกทำความชื้น จะต้องเปลี่ยนน้ำและทำความสะอาดกระบอกทุกวันที่ใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ จะใช้น้ำเปล่าหรือน้ำกลั่นล้างก็ได้ สิ่งสำคัญคือไม่ควรใช้น้ำยาล้างทำความสะอาดต่างๆที่มีกลิ่นฉุนจะทำให้กลิ่นคงค้างอยู่ในกระบอกน้ำ
  • ขณะที่เปิดใช้งาน เครื่องผลิตออกซิเจน ให้คอยเช็คระดับน้ำระหว่างการใช้งานนานๆ ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำอยู่ในระดับที่ต่ำจนเกินไป



เมื่อคุณได้ทราบแล้วว่าน้ำที่อยู่ในกระบอกทำความชื้น มีความสำคัญในเรื่องของการช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผู้ป่วยระหว่างการเพิ่มออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูกของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ เครื่องผลิตออกซิเจน ที่บ้าน ซึ่งการจะเลือกประเภทการใช้งานของเครื่องออกซิเจนนั้น ก็อาจจะต้องพิจารณาจากอาการของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุเป็นหลัก เพราะไม่ใช่แค่ให้เหมาะสมกับผู้ใช้ แต่ยังหมายถึงการตัดสินใจเลือกประเภทและฟังก์ชั่นที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุดด้วยนั่นเอง

หากคุณกำลังมองหา เครื่องผลิตออกซิเจน ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 3 - 10 ลิตร รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ อย่าง น้ำกลั่นสเตอร์ไรด์ (Sterile Water) ในกระบอกทำความชื้น (Humidifier Bottle) คุณภาพดี คุ้มค่าคุ้มราคาที่ได้มาตรฐาน จาก Adlerthailand ได้ที่นี่

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Customer services : 096-924-6604
Facebook : @AdlerMedicalSupply
Line@ : https://page.line.me/adlermed
Website : https://www.adlerthailand.com

22 พฤศจิกายน 2565

ผู้ชม 7548 ครั้ง

Engine by shopup.com