shopup.com

ดูบทความปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน

ปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน

ปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน

เลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย

 

ออกซิเจนเป็นสิ่งจำที่ร่างกายมนุษย์ขาดไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามด้วยการดำเนินชีวิตในรูปแบบต่างๆ ก็อาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยในหลายกรณี ที่ส่งผลกระทบต่อระบบของร่างกายจนสามารถนำไปสู่ภาวะขาดออกซิเจนได้ เมื่อร่างกายของผู้ป่วยได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงจำเป็นจะต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจนกับผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนได้มากขึ้น เครื่องผลิตออกซิเจนจึงถือเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญเป็นอย่างมากกับทั้งผู้ป่วย รวมถึงผู้สูงอายุที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ หลังจากที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของปอดในผู้ป่วย เครื่องผลิตออกซิเจนจึงยิ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญและเป็นที่ต้องการมากขึ้น ด้วยการที่มียอดผู้ป่วยที่พุ่งสูง ทำให้โรงพยาบาลรองรับได้ไม่เพียงพอ

หลายคนจึงเริ่มหันมาสนใจที่จะมีเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ใช้ภายในบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กๆ และผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยง แต่การจะเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนสักเครื่องนั้น ไม่ใช่จะเลือกเครื่องไหนก็ได้ เพราะแต่ละเครื่องมีประสิทธิภาพและการใช้งานที่แตกต่างกันอยู่ วันนี้เราจึงจะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักการเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนด้วย 5 ปัจจัยหลักที่ควรจะต้องคำนึงถึง ก่อนการเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน เพื่อให้ได้ใช้งานเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับผู้ป่วยในแต่ละกรณีมากที่สุด

 

5 ปัจจัยหลักต้องคำนึงถึง! ก่อนเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับใช้กับผู้ป่วยในบ้าน


1. ขนาดของเครื่องผลิตออกซิเจนที่เหมาะสม

ตามหลักการทำงานทั่วไปแล้ว เครื่องผลิตออกซิเจนจะมีหน่วยของเครื่องเพื่อบอกอัตราการไหลของออกซิเจนใน 1 นาที คือ “LPM หรือ ลิตร/นาที” โดยจะมีขนาดเริ่มตั้งแต่ 3 ไปจนถึง 10 ลิตร เพราะผู้ป่วยในแต่ละคนแต่ละกรณีของอาการป่วยจะมีความต้องการอัตราการไหลของออกซิเจนที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเครื่องผลิตออกซิเจนจึงถูกผลิตออกมาหลากหลายรุ่นและขนาด ผู้ซื้อจึงต้องปรึกษากับแพทย์เจ้าของอาการของผู้ป่วย ก่อนทำการเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนให้ดี เพื่อให้ได้เครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยมากที่สุดนั่นเอง เรามาดูกันว่าสำหรับผู้ป่วยในแต่ละกรณีนั้นเหมาะกับการใช้เครื่องขนาดเท่าไหร่บ้างในเบื้องต้น

  • เครื่องขนาด 3-5 ลิตร: เป็นเครื่องผลิตออกซิเจนขนาดที่เหมาะกับกลุ่มผู้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ที่มีอาการเหนื่อยหอบ หรือบุคคลทั่วไปที่มีภาวะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จากหลายสาเหตุทั้งการพักผ่อนน้อย และจากสภาพแวดล้อม รวมไปถึงผู้สูงอายุที่ต้องได้รับปริมาณออกซิเจนเพิ่ม แต่ไม่มีอาการอื่นรุนแรง ซึ่งเครื่องขนาดดังกล่าวนี้ สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Nasal Cannula หรือ สายออกซิเจนแบบผ่านจมูก เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับออกซิเจนได้ดียิ่งขึ้น แต่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไป

  • เครื่องขนาด 5-8 ลิตร: หากเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับปริมาณออกซิเจนที่สูงขึ้นจากปกติ แนะนำให้ใช้เครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 6-8 ลิตรขึ้นไป อย่างเช่นผู้ป่วยเจาะคอ เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมทั้งหน้ากากสำหรับผู้ป่วยเจาะคอที่ต่อเข้ากับกระปุกให้ความชื้น หน้ากากพร้อมถังเก็บออกซิเจน และ Nasal Cannula

  • เครื่องขนาด 8-10 ลิตร: ใช้กับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในระดับที่รุนแรง มีความจำเป็นจะต้องได้รับออกซิเจนในปริมาณสูง ซึ่งมักจะใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมคือ หน้ากากออกซิเจนแบบมีถุง และเหมาะจะใช้กับผู้ป่วยเจาะคอ ด้วยการใช้ร่วมกับอุปกรณ์ Corrugated Tube หรือสายออกซิเจนงวงช้าง และกระปุกความให้ชื้นที่ปรับเปอร์เซ็นต์ความชื้นได้ เพื่อช่วยละลายเสมหะและลดการระคายเคือง ให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้เครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 8-10 ลิตรบางรุ่นยังสามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องพ่นยา ด้วยแรงดันที่สูง เครื่องจึงสามารถทำให้ตัวยาที่ต้องการระเหยเป็นไอแล้วพ่นออกมาพร้อมกับออกซิเจนได้ด้วย


2. เลือกเครื่องผลิตออกซิเจนที่การใช้งานเข้ากับผู้ป่วยบางกรณีได้

นอกจากในเรื่องของปริมาณอัตราการไหลของออกซิเจนที่เหมาะสมแล้ว การเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนในแต่ละรุ่น ก็ยังต้องคำนึงถึงเครื่องที่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ร่วมด้วย เพราะในเครื่องบางรุ่นนั้นแม้จะมีขนาดตามความต้องการ แต่ก็มีข้อจำกัดด้านการใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ นั่นอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการตัดสินใจและไม่สามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเราควรจะต้องได้รับคำปรึกษาและการแนะนำจากแพทย์เจ้าของอาการของผู้ป่วยว่า ในกรณีของผู้ป่วยนั้นจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมใดบ้างกับเครื่องผลิตออกซิเจน

อย่างเช่น หากเป็นผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการพ่นยา หรือผู้ป่วยเจาะคอ ก็จะต้องใช้เครื่องให้ความชื้น และเครื่องพ่นยาร่วมกับเครื่องผลิตออกซิเจนด้วย จึงจะต้องเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นที่สามารถพ่อละอองยาได้ และสามารถใช้ร่วมกับเครื่องให้ความชื้นสำหรับผู้ป่วยเจาะคอได้นั่นเอง

3. มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยบ่อยหรือไม่
แน่นอนว่าหลักการสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับใช้ภายในบ้านนั้น จะต้องเลือกซื้อเครื่องที่สามารถติดตั้งและเสียบใช้งานกับไฟฟ้าภายในบ้านได้ แต่อีกปัจจัยสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงด้วยก็คือ การมีเครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพา เพื่อเป็นเครื่องสำรองใช้ในการเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วย สำหรับผู้ป่วยในกรณีที่ต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นหากที่บ้านมีผู้ป่วยที่จำเป็นจะต้องได้รับออกซิเจนอยู่ตลอด และยังต้องมีการเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วยเพื่อไปโรงพยาบาลหรือไปนอกสถานที่บ่อยๆ จึงจำเป็นจะต้องเลือกซื้อทั้งเครื่องผลิตออกซิเจนที่ติดตั้งในบ้านและเครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพา เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมากกว่าด้วย แต่หากเป็นบุคคลทั่วไปหรือผู้สูงอายุที่ต้องการได้รับออกซิเจนที่มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสดชื่น การมีเพียงเครื่องผลิตออกซิเจนแบบติดตั้งภายในบ้านก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว

4. คำนึงถึงค่าใช้จ่ายและงบประมาณ
เรื่องของงบประมาณและค่าใช้จ่ายก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคิดคำนวณให้ดี ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะเลือกซื้ออะไรก็ตามเราก็ย่อมต้องการของที่มีคุณภาพ แต่ด้วยงบประมาณของแต่ละคนที่มีเงื่อนไขแตกต่างไม่เท่ากัน การคำนวณงบประมาณ และเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนตามความต้องการที่ไม่เกินความจำเป็นสำหรับผู้ป่วย จึงจะทำให้ได้เครื่องที่สามารถทำงานได้ตามประสิทธิภาพที่ต้องการ โดยไม่ต้องเสียงบประมาณมากเกินจำเป็นและไม่บานปลาย และที่สำคัญอีกประการคือ ค่าใช้จ่ายในระยะยาวอย่างเช่น ค่าซ่อมบำรุง และค่าอุปกรณ์เสริมที่ต้องเปลี่ยนเป็นครั้งคราวตามการใช้งาน ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนกับแหล่งที่มีการรับประกันสินค้า เพื่อความคุ้มค่าและบริการหลังการขายที่เราจะได้รับมากกว่า

5. เลือกซื้อกับแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
ปัจจัยสำคัญสุดท้ายที่จะต้องดูให้ดีก็คือ การเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนกับแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพราะเครื่องผลิตออกซิเจนถือเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างหนึ่ง ซึ่งจะต้องได้รับมาตรฐาน ต้องมีคุณภาพสูงและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเป็นเครื่องที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจทำให้ได้เครื่องที่ไม่มีมาตรฐาน และอาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการใช้งานกับผู้ป่วยในภายหลัง ซึ่งไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน และนอกจากนี้ การเลือกซื้อกับแหล่งที่ไว้ใจได้ ก็จะได้รับบริการจากเจ้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ในการให้คำแนะนำการใช้งานได้อย่างถูกต้อง รวมถึงบริการหลังการขายที่ดี ก็จะทำให้ได้เครื่องผลิตออกซิเจนที่มีคุณภาพสูง และปลอดภัยไปใช้งานกับผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างสบายใจ

Adler Medical Supply เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการและจัดจำหน่ายสินค้าทางการแพทย์ครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาและต้องการเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 3 ลิตร 5 ลิตร และเครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 8-10 ลิตร รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์อย่าง เตียงผู้ป่วย เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า เตียงผู้สูงอายุ เตียงคนไข้ เราพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ และมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและคำปรึกษาลูกค้าทุกท่านในการเลือกซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และความต้องการของผู้ป่วยที่แตกต่างกัน

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Customer services : 096-924-6604
Facebook : @AdlerMedicalSupply
Line@ : https://page.line.me/adlermed
Website : https://www.adlerthailand.com

18 ตุลาคม 2565

ผู้ชม 511 ครั้ง

Engine by shopup.com