shopup.com
Mucus Extractors
หมวดหมู่สินค้า: เวชภัณฑ์โรงพยาบาล
รหัส :
ราคา 0.00 บาท

04 มิถุนายน 2564

ผู้ชม 2140 ผู้ชม

ชุดเก็บเสมหะเพื่อส่งตรวจ (Mucus Extractors)

  • ขวดทำจาก Polypropylene - PP วัสดุ medical grade ลักษณะใส รูปทรงกระบอกที่แสงสามารถส่องผ่านได้ ทำให้มองเห็นสารคัดหลังภายในได้ ทนทาน ไม่แตกง่าย
  • ตัวกระปุกมีขีดบอกปริมาตรที่ข้างขวดที่ง่ายต่อการสังเกตตั้งแต่ 5 – 25 มิลลิลิตร ซึ่งมีระยะห่างขีดละ 1 มิลลิลิตร
  • สาย suction ทำจากPolyvinylchloride – PVC วัสดุ Medical Grade มีความใส และคืนรูปได้ดี ไม่หัก พับ งอ ด้านปลายสายมีความมน ไม่คม
  • มีรูที่ปลายสายsuction 1 รู และด้านข้างอีก 2 รู ที่จะไม่ตรงกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดยิ่งขึ้น และป้องการอุดตันของสาย
  • มีสายสำหรับต่อเข้ากับเครื่อง suction พร้อมปุ่มควบคุมการดูดด้วยนิ้ว (Finger trip control)ที่จะทำงานโดยการกดเพื่อดูด และปล่อยเพื่อหยุดการดูดเสมหะ
  • สาย suction และสายต่อระบบสุญญากาศทั้ง 2 เส้น มีความยาว 50 และ 40 เซนติเมตรตามลำดับ
  • สาย suction มีขนาดหลากหลายตั้งแต่ 6 ถึง 14 Fr.

 

MUCUS Extractors คืออะไร เก็บเสมหะยังไงในช่วงโควิด 19

 

MUCUS Extractors ใช้กับเครื่องดูดเสมหะ หรือระบบแรงดันสุญญากาศของโรงพยาบาล เพื่อรักษาทางเดินหายใจโดยการกำจัดสารคัดหลั่งออกจากปาก คอ และบริเวณทางเดินหายใจ  รวมไปถึงยังทำหน้าที่สำคัญในการเก็บเสมหะเพื่อทำการส่งทดสอบ หรือตรวจหาการปนเปื้อนของสาร สิ่งสกปรก เชื้อโรค ไวรัส ต่างๆ ได้อีกด้วย

 

ในการวินิจฉัยที่แม่นยำมากขึ้นของแพทย์ผู้ทำการรักษา ในบางกรณีพยาธิสภาพของผู้ป่วยอาจจะต้องใช้การตรวจเสมหะ หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ ว่ามีส่วนประกอบ หรือการปนเปื้อนของเชื้อโรค ไวรัส สิ่งอื่นๆ หรือไม่ เพื่อให้แพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยได้รวดเร็ว และถูกต้องยิ่งขึ้น

ดังนั้นการเก็บเสมหะ จึงจำเป็นต้องใช้ชุดเก็บเสมะในการบรรจุเสมหะไปส่งตรวจในห้องเพาะเชื้อหรือห้องทดลองต่อไป โดยชุดเก็บเสมหะนั้นจะประกอบไปด้วย

  1. สายดูดเสมหะ ที่จะทำหน้าที่ในการนำเสมหะขึ้นมาจากหลอดลมผู้ป่วย
  2. สายท่อสุญญากาศพร้อมปุ่มควบคุมการดูดด้วยนิ้ว (Finger tip) เป็นสายที่นำแรงดันสุญญากาศจากเครื่องดูดเสมหะ หรือระบบแรงดันสุญญากาศของโรงพยาบาล เพื่อใช้เป็นแรงดูดเสมหะ
  3. ฝาปิดที่ต่อสายดูดเสมหะและสายท่อสุญญากาศพร้อมปุ่มควบคุมการดูดด้วยนิ้ว (Finger tip) ทำหน้าที่ในการลดการฟุ่งกระจายของเสมหะ ในขณะที่ดูดเสมหะ
  4. ขวดบรรจุเสมหะ ที่จะมีการขีดบอกระดับปริมาตรที่ข้างขวด เพื่อให้มีปริมาณของเสมหะที่เพียงพอในการทดสอบเชื้อ ซึ่งโดยปรกตินั้นจะต้องใส่เสมหะประมาณ 10 – 15 มิลลิลิตร ในการทดสอบ (ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีในการทดสอบนั้นๆ)
  5. ฝาปิดขวดบรรจุเสมหะเพื่อส่งตรวจ ซึ่งจะอยู่บริเวณก้นของขวดบรรจุเสมหะ เมื่อทำการดูดเสมหะให้ได้ปริมาตรที่เพียงพอแล้ว จะทำการปลดฝาปิดที่ต่อกับสายดูดเสมหะออก เนื่องจากการส่งตรวจทั้งที่มีสายดูดเสมหะเลยนั้นอาจจะก่อให้เกิดการปนเปื้อนได้ จึงต้องปลดออก และนำฝาที่บริเวณก้นขวดมาปิดขวดแทนก่อนทำการส่งตรวจต่อไปนั้นเอง

ในการดูดเสมหะทั่วๆไปนั้น จะเกิดการฟุ่งกระจายของละอองของน้ำลาย เมือก สารคัดหลั่ง รวมไปถึงเสมหะที่อยู่บริเวณทางเดินหายใจขึ้น ทำให้เกิดการสุ่มเสี่ยงที่อาจจะทำให้ก่อเกิดเป็นแหล่งการสะสม หรือปนเปื้อนจากละอองเหล่านั้นได้  ยิ่งในยุคของโควิด 19 แล้วนั้นการเกิดละอองเป็นเรื่องที่เราหำวาดกลัวยิ่งขึ้น แล้วการดูดเสมหะในยุคโควิด 19 นั้นจะต้องใช้อุปกรณ์ที่ป้องกันการแพร่กระจายของละอองโดยเราจะให้สายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter ที่จะลดการฟุ่งกระจายของละออง ขณะที่ดูดเสมหะนั้นเอง

 ส่วนการเก็บเสมหะนั้นสามารถทำด้วยการต่อร่วมกับสายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter แต่จะต้องมีข้อต่อพิเศษ หรือเป็นรุ่นที่ MUCUS Extractorsจะ เปลี่ยนจากสายดูดเสมหะ เป็นสายพลาสติกพร้อมข้อต่อที่จะทำหน้าที่เชื่อมกับสายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter  ได้แทนนั้นเอง ซึ่งการเดินทางของเสมหะจากทางเดินหายใจ ผ่ายสายดูดเสมะระบบปิด ไปยังสายพลาสติกของ MUCUS Extractorsและบรรจุลงในขวดเก็บเสมหะ เมื่อได้ปริมาณที่เพียงพอแล้วปลดสายดูดเสมหะระบบปิด หรือ Close Suction System catheter  ออกจากMUCUS Extractors ต่อมาปลดฝาปิดพร้อมสายต่างๆ ออก และ ทิ้งลงขยะติดเชื้อ จากนั้นนำฝาปิดบริเวณก้นขวดมาใส่แทน และทำการส่งตัวอย่างเสมหะตรวจสอบ หรือทดลองต่อไป เท่านี้ก็ลดการเกิดละออง หรือการปนเปื้อนได้อีกขั้นหนึ่งแล้ว

Engine by shopup.com