25 กันยายน 2567
ผู้ชม 17467 ผู้ชม
ใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือการแพทย์ ฆพ.1846/2567
ใบรับแจ้งรายการละเอียดที่ 65-2-2-2-008316
เครื่องผลิตออกซิเจน INVACARE 5 ลิตร รุ่น PERFECTO 2
คุณสมบัติหลัก
- ขนาด 305 x 380 x 585 มม.
- น้ำหนัก 18.2 กิโลกรัม
- มีร่องสำหรับสะดวกในการยก ใต้เครื่อง และมีที่หิ้วด้านบน
- มีตัวรัดสายไฟป้องกันปลั๊กหลุดจากเครื่อง
- มีช่องต่อรองรับระบบการเติมออกซิเจนเข้าแทงค์
- สามารถต่อเข้ากับ flowmeter สำหรับใช้กับเด็ก ได้ (อุปกรณ์ซื้อเพิ่มเติม)
- แสดงเวลาการทำงาน
รายละเอียดคุณสมบัติทางเทคนิค
- อัตราการไหล 0.5-5 ลิตร/นาที
- ความเข้มข้นของออกซิเจน 87-96%
- ความดันออกสูงสุด 34.5 กิโลปลาสคาล + 10%
- เสียงดัง น้อยกว่า 40 เดซิเบลเอ
- ใช้ไฟกระแสสลับ 230 โวลต์ , 50 Hz (+10%) , กินไฟ 320 วัตต์
- ใช้ได้ถึงความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,500 เมตร
- มีระบบส่งสัญญาเตือนอัตราการไหลต่ำ
- สัญญาณเตือน % ออกซิเจนต่ำกว่า 85% โดยไฟสีเขียว แสดงสถานะปกติ ออกซิเจน มากกว่า 85%,ไฟสีเหลืองแสดงออกซิเจน อยู่ระหว่าง 73-85% และไฟสีแดง พร้องเสียงเตือน หากออกซิเจนต่ำกว่า 73%
- สัญญาณเตือนไฟฟ้าขัดข้อง (ระบบการเตือนไม่ต้องใช้ถ่าน)
- ข้อต่อทางออกออกซิเจนป้องกันไฟ
- ฟิวเตอร์ก่อนเข้าคอมเพรสเซอร์ และ ทางออกไปยังคนไข้เป็น HEPA
- มีหน่วยความจำความผิดพลาดของเครื่อง สามารถอ่านความผิดพลาดจาก สัญญาณไฟ และดูความหมายจากตารางที่ติดไว้ ด้านในเครื่อง ช่างสามารถตรวจสอบและแก้ไข ได้ง่าย
อุปกรณ์ประกอบในชุด
คู่มือการใช้งาน | 1 ชุด |
ชุดไส้กรองอากาศ | 1 ชุด |
กระปุกให้ความชื้น |
1 ชุด |
รายการของแถมพร้อมใช้งาน
แถมฟรี เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หรือ เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรด หรือ เครื่องวัดความดัน หรือ เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด |
1 เครื่อง |
แถมฟรี สาย Oxygen Cannula | 5 ชุด |
แถมฟรี น้ำกลั่นทางการแพทย์ 500 ml. |
2 ขวด |
แถมฟรี ชุดดักความชื้นส่วนเกิน ป้องกันน้ำในสาย |
1 ชุด |
การรับประกันสินค้า
- สินค้ารับประกัน 3 ปี
- มีศูนย์ให้บริการในประเทศไทย มีเครื่องสำรองให้ใช้ระหว่างรอซ่อมตลอดอายุการใช้งาน
- บริการถึงสถานที่ (Onsite Service) เฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
บริการพิเศษ
- ฟรี เครื่องสำรองระหว่างซ่อม
- ฟรี บริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศ บริการจัดส่งพร้อมติดตั้งฟรีพร้อมเจ้าหน้าที่แนะนำการใช้งานในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล
- พิเศษ รองรับการชำระเงินปลายทาง โอนเงินหรือชำระบัตรเครดิตไม่ชาร์จเพิ่ม
คำแนะนำและการดูแลรักษาเครื่องออกซิเจน
1. ควรตั้งเครื่องไว้ในบริเวณที่โล่งหรือที่ให้ลมผ่านสะดวก ควรวางห่างจากกำแพง อย่างน้อย 1 ฟุต ไม่ควรวางเครื่องไว้ชิดกำแพง ห้ามวางเครื่องบนโฟม ฟูก พรม และหลีกเลี่ยงการวางเครื่องในพื้นที่ที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี
2. การเปิดปิดเครื่องแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องเซ็ตอัพอย่างน้อย 5 นาที
3. ก่อนใช้ฟังก์ชั่นพ่นยาต้องปรับระดับอัตราการไหลของออกซิเจนเป็น 1 ลิตรต่อนาที ก่อนทุกครั้ง
4. เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีไฟฟ้าดับหรือไม่มีไฟฟ้า
5. เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีกระแสไฟฟ้าตกเกิน 10% จากกระแสไฟที่จ่าย
6. ในกรณีที่ไม่ใช้งานควรดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้ง
7. ในกรณีเคลื่อนย้ายเครื่องต้องวางเครื่องในแนวตั้งเท่านั้น และถอดกระป๋องนํ้าให้ความชื้น ออกจากเครื่องทุกครั้ง
8. ในกรณีเครื่องมีปัญหาขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ กรุณาติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย
9. ควรหมั่นทำความสะอาดภายนอกเครื่องโดยใช้ผ้าชุบนํ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่วและใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อ เช็ดอีกครั้งอย่างสมํ่าเสมอ
10. ควรทำความสะอาดไส้กรองข้างเครื่องทุกสัปดาห์ โดยล้างนํ้าและผึ่งลมให้แห้ง
11. ควรเปลี่ยนไส้กรองในเครื่องอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน (ติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย)
หลักการทำงานเครื่องผลิตออกซิเจน และวิธีการเลือกเครื่องผลิตออกซิเจน ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์และการใช้งาน
หลักการทำงานของเครื่องผลิตออกซิเจน
สำหรับอากาศทั่วไปประกอบด้วยไนโตรเจน 78 เปอร์เซ็นต์ และออกซิเจน 21 เปอร์เซ็นต์ อีกเพียง 1 เปอร์เซ็นต์จะเป็นแก๊สชนิดอื่นๆ เครื่องผลิตออกซิเจน จะเปลี่ยนอากาศโดยรอบโดยอาศัยหลักการ pressure swing adsorption หรือ PSA โดยเทคนิคนี้ จะใช้สารดูดซับประเภทซีโอไลท์ (zeolite) เพื่อทำการดูดซับไนโตรเจนออกจากอากาศที่ความดันสูง โดยไนโตรเจนจะยึดติดกับผิวของสารซีโอไลท์ เนื่องจากซีโอไลท์มีพื้นผิวสัมผัสมากจึงสามารถจับกับแก๊สไนโตรเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก สารจะดูดซับก๊าซไว้ได้เป็นจำนวนมาก เมื่อความดันต่ำลงไนโตรเจนก็จะถูกปล่อยทิ้ง ส่วนออกซิเจนก็จะถูกปล่อยออกมาเพื่อใช้งานที่มีความบริสุทธิ์ประมาณ 96% เหมือนเป็นการกรองแก๊สไนโตรเจนออกจากแก๊สออกซิเจนนั่นเอง
เครื่องผลิตออกซิเจน แบ่งได้ เป็น 2 ชนิด ตามการใช้งาน
1.ชนิด Continuous Flow Oxygen Concentrators
จะปล่อยออกซิเจนออกมาได้ต่อเนื่อง ใช้เพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล และสถานพยาบาล แม้แต่ใช้พักฟื้นที่บ้าน มีขนาดสเปคตั้งแต่ 3 ลิตร ขนาด 5 ลิตร ไปจนถึงขนาด 10 ลิตร ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการนำไปใช้งาน
2.ชนิด Pulse Dose Portable Concentrators
เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ Pulse Dose สามารถผลิตออกซิเจนให้ได้ในระยะสั้นๆตามการหายใจเข้า ส่งผลให้ไม่มีการสูญเสียออกซิเจนให้สูญเปล่า สามารถช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการออกซิเจนไม่มากนัก และสำหรับต้องการออกซิเจนแบบพกพาเพื่อทำกิจกรรมนอกบ้าน เครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพา
การจับจังหวะการหายใจไม่ว่าผู้ใช้จะหายใจช้าหรือเร็วเครื่องก็สามารถจับจังหวะการหายใจและปล่อยออกซิเจนได้อย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล ระบบแบบ pulse dose ส่วนใหญ่สามารถปรับได้ประมาณ 1 - 5 ระดับ โดยที่ค่าความเข้มข้นของออกซิเจนจะไม่ลดลง ซึ่งจะมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 93+- 3% ในทุกระดับ
ทราบได้อย่างไรว่าควรเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนขนาดกี่ลิตร
แพทย์จะกำหนดให้ผู้ป่วยทราบว่าผู้ป่วยจะต้องการออกซิเจนเท่าใด (ลิตรต่อนาที) ก่อนซื้อต้องมั่นใจว่าเครื่องผลิตออกซิเจนสามารถให้ออกซิเจนในปริมาณที่เพียงพอสำหรับความต้องการของผู้ใช้งานหรือไม่
การให้ออกซิเจนบำบัดที่บ้าน (Oxygen Therapy)
การพิจารณาให้ออกซิเจนที่บ้านจะใช้เกณฑ์ที่แตกต่างจากกรณีที่อยู่ในโรงพยาบาล คือเป็นการให้ออกซิเจนในภาวะปกติของผู้ป่วยรายนั้นนั่น
1.กรณีที่ต้องการให้ออกซิเจนต่อเนื่อง
- วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนจากปลายนิ้ว (SpO2) ได้น้อยกว่า 88 %
- วัด SpO2 ได้ 88-90% แต่มีภาวะหรือโรคที่บ่งบอกถึงภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรังขึ้นแล้ว จากการประเมินของแพทย์
2.กรณีที่ต้องให้ออกซิเจนเฉพาะบางโอกาส
- ให้ออกซิเจนขณะออกกำลังกาย หรือหลังออกกำลังกาย SpO2 น้อยกว่า 88%
- ให้เฉพาะขณะนอนหลับ ถ้าขณะหลับ SpO2 ต่ำกว่า 88 %
ทั้งสองภาวะเบื้องต้นนี้สามารถประเมินโดยการตรวจจับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ซึ่งอาจจะได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ผู้ดูแลก่อนจะดีที่สุด
อุปกรณ์สำหรับให้ออกซิเจน
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ต้องได้ออกซิเจนที่บ้าน มักใช้เพียงอุปกรณ์ชนิด nasal cannula หรือสายออกซิเจนแบบผ่านจมูก เพราะภาวะพร่องออกซิเจนมักจะต่ำและไม่รุนแรงมากนัก อย่างไรก็ตามก็มีผู้ป่วยโรคปอด หรือโรคหัวใจบางรายที่มีภาวะขาดออกซิเจนที่รุนแรงแต่เรื้อรังมากๆ จำเป็นต้องรักษาตัวที่บ้าน จึงต้องมีการใช้อุปกรณ์สำหรับให้ออกซิเจนในรูปแบบอื่นๆ ด้วยดังนี้
1. nasal cannula หรือสายออกซิเจนแบบผ่านจมูก
ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 1-6 ลิตร/นาที สายเล็กๆ ที่นำออกซิเจนควรอยู่ลึกในจมูกประมาณ 1 ซม. ข้อดีคือผู้ป่วยจะรู้สึกสบายกว่าอุปกรณ์แบบอื่นและมีราคาถูก
ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับ (FiO2)
1 L/min = 24 %
2 L/min = 28 %
3 L/min = 32 %
4 L/min = 36 %
5 L/min = 40 %
6 L/min = 44 %
ข้อจำกัด
ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับแปรผันตามการหายใจ ถ้าหายใจเร็ว หอบอยู่ สัดส่วนของอากาศปกติก็จะมาก ทำให้ความเข้มข้นลดลง และถ้าเปิดออกซิเจนแรง จะทำให้ระคายเคืองเยื่อบุจมูก
2. Simple Oxygen Mask หรือหน้ากากออกซิเจน
ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 5-8 ลิตร/นาที การใช้ต้องครอบให้แนบสนิทกับหน้า
ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับ (FiO2)
5-8 L/min = 50-60%
ข้อจำกัด
ห้ามเปิดออกซิเจน น้อยกว่า 5 L/min เพราะจะทำให้ลมหายใจเดิมค้างในหน้ากาก ผู้ป่วยจะหายใจเอาอากาศเดิมเข้าไปใหม่ได้ บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยจะรู้สึกอึดอัด ไม่สบาย
3. High Concentration Oxygen Re breathing Mask with Bag หรือหน้ากากออกซิเจนมีถุง
ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 6-10 ลิตร/นาที การใช้ต้องครอบให้แนบสนิทกับหน้า สังเกตว่าถุงมีการยุบพอง ตามจังหวะการหายใจของคนไข้
ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับ (FiO2)
6-10 L/min = 55-70 %
ข้อจำกัด
ห้ามเปิดออกซิเจน น้อยกว่า 6 L/min อื่นๆ เช่นเดียวกับ simple mask
ภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ
ออกซิเจนในเลือดต่ำ หมายถึง แรงดันของออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ หรือวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้น้อยกว่าปกตินั่นเอง เครื่องที่ใช้ตรวจวัดสะดวกแพร่หลายจะเป็น การวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจน เพราะสามารถวัดได้จากภายนอก โดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ไม่ยุ่งยาก และซับซ้อน เราจะวัดโดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า pulse oximeter (เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว) โดยปกติค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดจะอยู่ที่ 96 – 100% ของความอิ่มตัวสูงสุด
หากค่า 95 % หรือต่ำกว่า มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ควรปรึกษาแพทย์ **หากมีโรคประจำตัวบางกลุ่ม หรือสูบบุหรี่จัดอาจส่งผลให้ความอิ่มตัวออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติได้** ในกรณีออกซิเจนต่ำที่เป็นเรื้อรังแล้วร่างกายมีการปรับตัว มักจะไม่มีอาการของการขาดออกซิเจน จนกว่าออกซิเจนจะเริ่มต่ำกว่า 90% เมื่อออกซิเจนในเลือดต่ำ เริ่มแรกเลยร่างกายจะพยายามปรับสมดุลในตัวเอง เพื่อรักษาระดับออกซิเจนไม่ให้ตกก่อน โดยการหายใจที่เร็วขึ้น แรงขึ้น หัวใจก็พยายามสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ มากขึ้น โดยจะเต้นเร็วและแรงขึ้นด้วยเช่นกัน ความดันโลหิตก็จะสูงขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก
- เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วใช้อย่างไร./https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2/
- นพ.สุรพันธ์ เจริญธัญรักษ์.ใส่ O2 canula ได้ FiO2 เท่าไร ?.https://www.facebook.com/kkhsepsis
- หลักการให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย. https://www.medi2you.com/oxygen-concentrator/
**เครื่องผลิตออกซิเจนไม่ใช่อุปกรณ์ช่วยชีวิต กรุณาอ่านคู่มืออย่างระวัง**
**ในกรณีติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า กรุณานัดหมายในเวลาทำการ**
**การใช้เครื่องผลิตออกซิเจนควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์**